วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บอกจังหวะกำไร ต้อง "RSI"




 การใช้งาน บอกภาวะ Overbought – Oversold, Divergence, Failure Swing, Trend identification (Trend ID) , Positive & Negative Reversal  

Relative Strength Index Interpretation ( การตีความ RSI )


1. Overbought – Oversold indentifacation (บ่งชี้ภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป)


RSI. เข้าสู่ Overbought เมื่อ RSI. > 70 [ในภาพ เส้นสีเหลือง อยู่เหนือ เส้นสีเขียว]


RSI. เข้าสู่ Oversold เมื่อ RSI. < 30 [ในภาพ เส้นสีเหลือง อยู่ใต้เส้น เส้นสีน้ำเงิน]


2. Divergence : Bullish Divergence & Bearish Divergence



3. Failure Swing 

(รูปแบบจะคล้ายกับ การเกิด Divergence และเกิดบริเวณจุดสูงสุด/ต่ำสุด สัมพัทธ์บริเวณนั้น)


Bullish Failure Swing 


สัญญาณ Bullish Failure Swing เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นของแนวโน้มขาลงก่อนหน้า (มักเกิดที่จุดต่ำสุดสัมพัทธ์บริเวณนั้น) ดังภาพด้านบน

Bearish Failure Swing 


สัญญาณ Bearish Failure Swing เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการยืนยันการกลับตัวเป็นขาลงของแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า (มักเกิดที่จุดสูงสุดสัมพัทธ์บริเวณนั้น) ดังภาพด้านบน

4. Trend identification (Trend ID)


Bull Market : ในตลาดขาขึ้น RSI. จะเคลื่อนที่ขึ้นลงอยู่ระหว่าง 40-90 และ Zone 40-50 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับในแนวโน้มขาขึ้น ดังภาพด้านล่าง


Bear Market : ในตลาดขาลง RSI. จะเคลื่อนที่ขึ้นลงอยู่ระหว่าง 10-60 และ Zone 50-60 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านในแนวโน้มขาลง ดังภาพด้านล่าง


5. Positive & Negative Reversal (จะเกิดหลังจากผ่านจุดสูงสุด/ต่ำสุดไปแล้ว)


Positive Reversal : ราคาทำ Higher Low ในขณะที่ RSI. ทำ Lower Low ใน Zone 30-50 แสดงถึง การกลับทิศทาง ราคามีโอกาสขึ้นต่อ ดังภาพด้านล่าง


 Negative Reversal : ราคาทำ Lower High ในขณะที่ RSI. 
ทำ Higher High ใน Zone 50 -70 แสดงถึง การกลับทิศทาง - ราคามีโอกาสลงต่อ ดังภาพด้านล่าง












Share: